กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศวันนี้ – 18 มีนาคม 2566 (พยากรณ์อากาศล่วงหน้า)ในช่วงวันที่ 12 – 14 มี.ค. 66 ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก รวมถึงอันตรายจากฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
ส่วนในช่วงวันที่ 15 – 18 มี.ค. 66 บริเวณกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ส่งผลทำให้ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายอากาศรายภาค ระหว่างวันที่ 12 – 18 มีนาคม 2566
ภาคเหนือ
วันที่ 12 – 13 มี.ค. 66
- อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 37 องศาเซลเซียส
วันที่ 14 – 18 มี.ค. 66
- อากาศเย็นในตอนเช้า และมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ ลมใต้ ความเร็ว 5 – 15 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 16 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 38 องศาเซลเซียส
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- วันที่ 12 – 13 มี.ค. 66
- อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 34 องศาเซลเซียส
- วันที่ 14 – 18 มี.ค. 66
- อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 16 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 36 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง
วันที่ 12 – 13 มี.ค. 66
- อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 36 องศาเซลเซียส
วันที่ 14 – 18 มี.ค. 66
- อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 38 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออก
วันที่ 12 – 13 มี.ค. 66
- อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 36 องศาเซลเซียส
วันที่ 14 – 18 มี.ค. 66
- อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณแนวชายฝั่งทะเล อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
- มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 35 องศาเซลเซียส
วันที่ 13 – 18 มี.ค. 66
- ตั้งแต่จ.สุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 – 2 เมตร
- ตั้งแต่จ.นครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ