ประกาศอุตุฯเตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนบน ระหว่างวันที่21-24พ.ย.นี้ประชาชนควรเฝ้าระวังน้ำหลาก-น้ำท่วม

รายงานสภาพอากาศ ประจำวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 จาก กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุ “พยากรณ์อากาศ” 24 ชั่วโมงข้างหน้า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมทะเลจีนใต้ตอนล่าง คาดว่าจะเคลื่อนผ่านปลายแหลมญวนและเข้าสู่อ่าวไทยช่วงวันที่ 23-24 พ.ย. 65 ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกและภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม

ส่วนบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมทะเลจีนใต้ ทำให้ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ในระดับบนยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้

ฝุ่นละอองในระยะนี้: ประเทศไทยและกรุงเทพมหานครมีการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควันน้อย เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังปานกลางและยังคงมีฝนตกในบางพื้นที่

ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ

พยากรณ์อากาศ” กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน ฉบับที่ 1 ไทยมี ฝนตกหนักถึงหนักมาก เช็คพื้นที่เสี่ยง น้ำท่วมฉับพลัน และ น้ำป่าไหลหลาก ที่นี่ ขณะที่ กทม. มีฝน 40%

“พยากรณ์อากาศ” ประกาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมาก บริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนบน ฉบับที่ 1 (318/2565) หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งเกาะบอร์เนียวมีแนวโน้มคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ตอนล่าง และจะมีกำลังแรงขึ้น 

คาดว่าจะเคลื่อนผ่านปลายแหลมญวนในช่วงวันที่ 20 – 21 พ.ย. 65 และเข้าสู่อ่าวไทย ในช่วงวันที่ 22 – 24 พ.ย. 65 ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลางเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณปลายแหลมญวน ส่งผลให้มี ฝนตกหนักถึงหนักมาก บางแห่งในช่วงเวลาดังกล่าวในภาคกลางตอนล่าง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้

ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจาก ฝนตกหนักถึงหนักมาก และ ฝนตก สะสม ซึ่งอาจทำ ให้เกิด น้ำท่วมฉับพลัน และ น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 21 – 24 พ.ย. 65 โดยอ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นไปมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร บริเวณที่มี ฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ทะเลอันดามันตอนบนตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นไปและอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจาก กรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์ กรมอุตุนิยมวิทยา หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ที่มา :https://www.komchadluek.net/news/society/536495

สภาพอากาศวันนี้ กรมอุตุฯ เตือนฝนฟ้าคะนอง 41จว.โดนเต็มๆ เสี่ยงท่วม

สภาพอากาศวันนี้ กรมอุตุฯ เตือน 41 จังหวัดยังเจอฝน ภาคใต้ตกหนักร้อยละ 70 ของพื้นที่ กทม.โดนด้วย เสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน เผย ไทยตอนบนอากาศเย็น

วันที่ 16 พ.ย.2565 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ประกอบกับลมตะวันออกยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย

สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลให้มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นเกิดขึ้นได้บางพื้นที่

สำหรับภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 น.วันนี้ ถึงเวลา 06.00 น.วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ลำปาง พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบนของภาคมีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า ตอนล่างของภาคมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี กาญจนบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ที่มา: ข่าวสดhttps://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_7367353

สภาพอากาศวันนี้(15 พ.ย. 65 ) กรมอุตุฯ เตือน ฝนถล่ม 48 จังหวัด กทม. โดนด้วย ภาคใต้หนักสุด

 

สภาพอากาศวันนี้ กรมอุตุฯ เตือน ฝนถล่ม 48 จังหวัด กทม. โดนด้วย ภาคใต้หนักสุด 

วันนี้ (15 พ.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ในขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณทะเลอันดามันตอนล่างและหัวเกาะสุมาตรา ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมตะวันออกยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทย

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย

สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลให้มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ในระดับบนพัดนำความชื้นจากทะเลเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นเกิดขึ้นได้บางพื้นที่

สำหรับภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย

ฝุ่นละอองในระยะนี้ : ประเทศไทยและกรุงเทพมหานครมีการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควันน้อยถึงปานกลาง เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังปานกลาง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 น. วันนี้ ถึงเวลา 06.00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ – อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ – ตอนบนของภาค : อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ตอนล่างของภาค : มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาคกลาง – มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ราชบุรี กาญจนบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาคตะวันออก – มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) – มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) – มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล – มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ที่มา: Sanook.com

 

พยากรณ์อากาศวันนี้ (14 พ.ย. 65) กรมอุตุนิยมวิทยา กางแผนที่ 11 จังหวัดเสี่ยงภัย “ฝนตกหนักถึงหนักมาก” ถึงวันพรุ่งนี้เช้า

พยากรณ์อากาศวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา กางแผนที่ เสี่ยงภัยฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย ประจำวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศมาเลเซีย โดยมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณช่องแคบมะละกาและภาคใต้ตอนล่าง มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทยตอนบน ในขณะที่ลมตะวันออกพัดปกคลุมภาคใต้ตอนล่าง 

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย

ส่วนบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนและเคลื่อนเข้าปกคลุมทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ในระดับบน พัดนำความชื้นจากทะเลเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ 

ขณะที่วันนี้กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่

นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้แสดงแผนที่พื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย ประจำวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 ตั้งแต่เวลา 06.00 น. วันนี้ ถึงเวลา 06.00 น. วันพรุ่งนี้

พื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนัก

พัทลุง สงขลา พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล

พื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนักถึงหนักมาก

ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช 

ข้อมูลจาก กรมอุตุนิยมวิทยา

https://www.tnnthailand.com/news/earth/130384/

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานอากาศวันนี้ (8พ.ย.65)ใต้มีฝนตกลดลง ไทยตอนบนอากาศเย็นถึงหนาว ภาคตะวันออกมีฝนตกเล็กน้อยบางแห่ง 

 

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป ประจำวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่างเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณเหนือเกาะสุมาตรา ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้ อ่าวไทย และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้

สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกบางในตอนเช้า ในขณะที่มีลมตะวันออกพัดปกคลุมภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ
อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำแข็งค้างบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 5-14 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง
อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก
ตอนบนของภาค อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า
ตอนล่างของภาค เมฆบางส่วนกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร


กรุงเทพและปริมณฑล
เมฆบางส่วนกับมีหมอกบางในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

 

ที่มา: Posttoday

อุตุฯ ประกาศฉบับสุดท้าย 15 จังหวัดภาคใต้ ฝนตกหนักถึงหนักมาก

 

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 7 ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ วันนี้พบ 15 จังหวัด เตือนอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้

วันนี้ (6 พ.ย.65) นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ ฉบับที่ 7 โดยมีรายละเอียดระบุว่า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่างเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลอันดามันตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมตะวันออกพัดปกคลุมภาคใต้ อ่าวไทย และทะเลอันดามัน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่


จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้

6 พฤศจิกายน 2565 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้

สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ที่มา : TNN

กรมอุตุ เตือน ฉ.2 ฝนตกหนักถึงหนักมากภาคใต้ 4-6 พ.ย.65 เฝ้าระวัง 13 จังหวัด

(4 พ.ย.2565) กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนฉบับที่ 2 ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ ซึ่งในช่วงวันที่ 4-6 พฤศจิกายน 2565 ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคใต้ตอนล่างเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณประเทศมาเลเซียและช่องแคบมะละกามีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมตะวันออกพัดปกคลุมภาคใต้ อ่าวไทย และทะเลอันดามัน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่

จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้

วันที่ 4-5 พฤศจิกายน 2565

  • สุราษฎร์ธานี
  • นครศรีธรรมราช
  • พัทลุง
  • ภูเก็ต
  • กระบี่
  • ตรัง
  • สตูล
  • สงขลา
  • ปัตตานี
  • ยะลา
  • นราธิวาส

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2565

  • ชุมพร
  • สุราษฎร์ธานี
  • นครศรีธรรมราช
  • พัทลุง
  • สงขลา
  • พังงา
  • ภูเก็ต
  • กระบี่

ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้ง 7 จังหวัดภาคใต้รับมือฝนตกหนัก เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน – น้ำป่าไหลหลาก ช่วงวันที่ 4-6 พ.ย.65

เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสถานการณ์ปริมาณฝนตกสะสมต่อเนื่อง ประกอบกับกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้มีประกาศฉบับที่ 52/2565 ลงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 แจ้งว่า ในวันที่ 4 – 5 พฤศจิกายน 2565 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน รวมถึงร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่างเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งสหพันธรัฐมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางพื้นที่

โดย 7 จังหวัดภาคใต้ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ในช่วงระหว่างวันที่ 4-6 พฤศจิกายน 2565 แยกเป็น 

  • สุราษฎร์ธานี (อำเภอท่าฉาง กาญจนดิษฐ์ ดอนสัก เกาะสมุย เกาะพะงัน) 
  • นครศรีธรรมราช (อำเภอขนอม เมืองนครศรีธรรมราช สิชล จุฬาภรณ์ ท่าศาลา นบพิตำ พระพรหม เชียรใหญ่ เฉลิมพระเกียรติ ชะอวด หัวไทร ปากพนัง) 
  • พัทลุง (อำเภอเมืองพัทลุง กงหรา ป่าบอน ศรีบรรพต บางแก้ว เขาชัยสน) 
  • สงขลา (อำเภอหาดใหญ่ กระแสสินธุ์ ระโนด สะเดา สทิงพระ สะบ้าย้อย สิงหนคร) 
  • ยะลา (อำเภอยะหา เบตง) 
  • ปัตตานี (อำเภอสายบุรี) 
  • นราธิวาส (อำเภอจะแนะ ยี่งอ ระแงะ สุไหงปาดี)

กอปภ.ก. จึงได้แจ้งเตือนไปยัง 7 จังหวัดดังกล่าว เตรียมพร้อมรับมือปริมาณฝนตกสะสมที่อาจส่งผลให้เกิดน้ำหลากและน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีปริมาณฝนตกสะสมมากกว่า 90 มม. โดยจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงตรวจสอบแนวคันบริเวณคันกั้นน้ำและเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ประสานการวางแผนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ โดยเฉพาะการปรับแผนระบายน้ำจากเขื่อนและประตูระบายน้ำ เพื่อพร่องน้ำและบริหารพื้นที่ลุ่มเพื่อรองรับน้ำ

พร้อมประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย รวมถึงนำเครื่องมือเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการเข้าประจำจุดเสี่ยงอันตรายและพื้นที่เสี่ยงภัยเพื่อให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนทันที ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำทุกหน่วยงานดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุอย่างเคร่งครัด

สำหรับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศและข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยขอให้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นและ ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด โดยประชาชนสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” และหากได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

ที่มา:กรุงเทพธุรกิจ

ภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ประกอบกับร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นต่อเนื่อง กับมีฝนตกหนักบางแห่งในระยะนี้ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดพัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ที่มา : กรมอุตุฯ