พยากรณ์อากาศ 29 ก.ค.-7 ส.ค.67 ทั่วไทยฝนตกต่อเนื่อง เหนือ-อีสานเสี่ยงน้ำท่วม

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 10 วันล่วงหน้า ระหว่าง 29 ก.ค.-7 ส.ค.67 ร่องมรสุมพาดผ่าน ทั่วไทยยังมีฝนตกต่อเนื่อง เตือน เหนือ-อีสาน เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน

ช่วงวันที่ 29 ก.ค.- 7 ส.ค. 2567 ทั่วไทยยังมีฝนตกต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคกลาง ภาคตะวันออก กทม.ปริมณฑลและภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง ด้านรับมรสุม และ ใกล้ร่องมรสุม  สาเหตุที่ทำให้ฝนเพิ่มขึ้นมาจาก ร่องมรสุม (ร่องความกดอากาศต่ำ) พาดผ่านบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (ลมฝน) จะมีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง

ในช่วงนี้ ภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน จะมีฝนเยอะหน่อย ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนัก ฝนตกสะสม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนภาคอีสานตอนล่าง กระแสลมตะวันออก ตะวันออกเฉียงใต้ ในระดับกลางจากมหาสมุทรแปซิฟิก พัดเข้ามาปกคลุม ฝนยังมีบางแห่ง

 ส่วนภาคใต้ฝนจะเริ่มเพิ่มขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา ยังเป็นฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง คลื่นลมมีกำลังค่อนข้างแรง

 ระยะนี้ยังไม่พบสัญญาณการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อนใกล้บริเวณประเทศไทย

Cr. PPTV

กรมอุตุฯ พยากรณ์อากาศ 10 วันล่วงหน้า วันที่ 11-20 มิ.ย.67 คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะทางภาคใต้มีคลื่นสูง 2 เมตร เตือนชาวเรือ ทะเลอันดามันและอ่าวไทยอาจเจอคลื่นสูง

กรมอุตุฯ พยากรณ์อากาศ 10 วันล่วงหน้า ระหว่างวันที่ 11-20 มิถุนายน 2567 คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะทางภาคใต้มีคลื่นสูง 2 เมตร เตือนชาวเรือ ทะเลอันดามันและอ่าวไทยอาจเจอคลื่นสูง

วันนี้ 11 มิถุนายน 2567 กรมอุตุนิยมวิทยา อัพเดทผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน 10 วันล่วงหน้า ระหว่าง 11-20 มิ.ย. 67 ยังคงมรสุมยังคงพาดผ่านทางตอนบนของภาคเหนือ ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุม ส่งผลให้มีฝนยังตกต่อเนื่อง บริเวณภาคเหนือ

ส่วน ภาคอีสานตอนบนและด้านตะวันตกของภาคกลาง เตรียมรับมือฝนถล่ม โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคกลางด้านตะวันตก ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน จังหวัดระนองและ จังหวัดพังงา อาจมีฝนตกสะสม ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนภาคใต้ตอนล่างมีฝนน้อย

ระหว่างวันที่ 12 – 17 มิ.ย. 67 ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือและประเทศลาวตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง

นอกจากนี้ บริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นลมบริเวณมีกำลังปานกลาง อาจทำให้มีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก

โดยเฉพาะ พื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

ส่วนวันที่ 15 – 20 มิ.ย. 67 ฝนจะเริ่มกลับมาตกเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่สม่ำเสมอ เตือนประชาชนในพื้นที่ เตรียมรับมือกับฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ ควรติดตามข่าวสารจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่
 

ทั้งนี้ ควรเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงภัยในช่วงเวลาดังกล่าว แต่หากจำเป็นต้องเดินทางควรตรวจสอบสภาพอากาศและเส้นทางก่อนออกเดินทาง เตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น น้ำท่วม ไฟดับ และดินถล่ม

แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย แต่ก็ควรเตรียมรับมือกับสภาพอากาศที่แปรปรวน โดยเฉพาะการเตรียมอุปกรณ์กันฝน และระมัดระวังในการเดินทาง การพยากรณ์อากาศเป็นเพียงการคาดการสภาพอากาศที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าเท่านั้น สามารถติดตามสภาพอากาศในแต่ละวันได้ที่ เพื่อเตรียมรับมือกับสภาพอากาศที่แปรปรวนในช่วงนี้

อ้างอิง : กรมอุตุนิยมวิทยา

กรมอุตุฯ พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคใต้ยังคงมีฝนตกในหลายพื้นที่ ทะเลคลื่นสูงกว่า 3 เมตร กทม. เริ่มหนาวน้อยลง

วันนี้ (21 ธ.ค.) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้มีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงทำให้ ภาคเหนือ และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพและปริมณฑล ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน ยังมีอากาศเย็นในตอนเช้า

ภาคเหนือ : อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 11-16 สูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส ยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 11-17 สูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส ยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-14 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง : อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 สูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก : อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 สูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก : อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.สงขลา ปัตตานี ยะลา และ นราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 สูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก : มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ บริเวณ จ.กระบี่ ตรัง และ สตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 สูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล : อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 สูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ประกอบกับร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นต่อเนื่อง กับมีฝนตกหนักบางแห่งในระยะนี้ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดพัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ที่มา : กรมอุตุฯ

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัยเรื่อง พายุ “นัลแก” ฉบับที่ 4 เคลื่อนเข้าจีน 2-3 พ.ย. วันนี้ไทยตอนบนอุณหภูมิลด 1-2 องศา

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัยเรื่อง พายุ “นัลแก” ฉบับที่ 4 ความว่า เมื่อเวลา 05.00 น. วันนี้ (1 พ.ย. 65) พายุโซนร้อนกำลังแรง “นัลแก” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 18.7 องศาเหนือ ลองจิจูด 116.0 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนไปทางเหนือด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

พายุนี้มีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนในช่วงวันที่ 2 – 3 พ.ย. 65 นี้ ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลาง อีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ในช่วงวันที่ 2 – 5 พ.ย. 65 ลักษณะเช่นนี้ จะทำให้พายุอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ประกาศ ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 เวลา 05.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 เวลา 17.00 น.

นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา ยังพยากรณ์ลักษณะอากาศทั่วไป ในช่วง 24 ชั่วโมง ระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนยังคงปกคลุมภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าว มีอากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ประกอบกับร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นต่อเนื่อง

กับมีฝนตกหนักบางแห่งในระยะนี้ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ตั้งแต่ 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ

อากาศเย็นในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-16 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง

อากาศเย็นในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดพัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล

มีเมฆบางส่วน โดยอุณหภูมิจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ที่มา:ประชาชาติธุรกิ

กรมอุตุ พยากรณ์อากาศ ไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น อากาศเย็น กทม. ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40

(26 ต.ค.2565) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมง ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ กับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า

ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อน ในขณะที่ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกมีกำลังแรงขึ้น สำหรับร่องมรสุมกำลังอ่อนพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้ไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศ สำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 05.00 น. วันนี้ ถึง 05.00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ : อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส , อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส , อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง : มีหมอกบางในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และนครปฐม อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส , อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก : มีหมอกบางในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส , อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) : มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส , อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) : มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส , อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล : มีหมอกบางในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส , อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ที่มา:กรุงเทพธุรกิจ

ดาวเทียมเผย น้ำท่วม 4 ลุ่มน้ำสำคัญ กว่า 7.4 แสนไร่

GISTDA เผยภาพถ่ายดาวเทียม พบหลายพื้นที่ใน 4 ลุ่มน้ำสำคัญได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังแล้วกว่า 7.4 แสนไร่ ขณะพื้นที่ปลูกข้าวโดยรวมได้รับผลกระทบแล้ว 2.6 แสนไร่

GISTDA หรือ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ได้ติดตาม สถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่บางส่วนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ลุ่มน้ำป่าสัก ลุ่มน้ำบางปะกง และลุ่มน้ำมูล ด้วย ดาวเทียม Radarsat-2 (เรดาร์แซท-2) เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2565 พบ พื้นที่น้ำท่วมขัง แล้วทั้งสิ้น 749,396 ไร่

โดยเฉพาะในเขตพื้นที่บางส่วนของจังหวัด สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครนายก ปราจีนบุรี และ นครราชสีมา ในขณะที่พื้นที่ปลูกข้าวโดยรวมได้รับผลกระทบแล้ว 260,558 ไร่

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ

อ่านข่าวฉบับเต็มคลิกที่นี่